ขาบนตีตรง เก็บไพ่ใบนั้นมาน็อกแล้วบอกเบา ๆว่า งงงงงงงงโงงง่ ฟังแล้วมันเจ็บปวด คนตีได้ยินยังจุก พูดไม่ออก โง่ได้ยังไง ทำไมซวยอย่างนี้แล้วก็จำฝังใจเลย ความจริงแล้วการตีโง่กับดัมมี่เป็นของคู่กัน ไม่มีใครหลีกหนีการตีโง่ไปได้ กว่าจะได้เป็นเซียนก็ต้องตีโง่มามากมายนับครั้งไม่ถ้วนและไม่ว่าจะเป็นเซียนระดับไหนก็ยังตีโง่อยู่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้จนกว่าเซียนจะบรรลุที่สุดของดัมมี่คือ เลิกเล่นซะ
การตีโง่มีหลายแบบ เช่น
โง่แบบไม่รู้ตัว ไม่คิดว่าจะโง่ จั่วมาไม่เข้าพวกตีเลย เกิดขึ้นได้ในการตีไพ่ 2-3รอบแรกเลยไม่ทันคิดว่าจะโง่ หากเล่นไปถึงกลางเกมแล้วไม่คิดก่อนตี ไม่ถามขาล่างว่าเหลือกี่ใบ เล่นตีโง่ขาดสติแบบนี้อันตรายมากและไม่ต้องโทษใครเพราะเล่นประมาทเอง
โง่แบบรู้ตัว ขาล่างเก็บไพ่อะไรขึ้นไป ถือไพ่ 3-4 ใบเห็นชัดเจนว่าคอยโง่แน่ แต่ยังอยากลองดูว่าโง่จริงไหม เชื่อมั่นตัวเองมาก รู้ว่าโง่แต่ก็ยังตี ไม่ต้องโทษใคร โทษตัวเอง มันโง่จริง ๆ ต้องฝึกอีก ฝึกอีกนานเลย ต้องตั้งสติ ลดความอยากรู้อยากลองให้น้อยลง
โง่แบบไม่รู้อะไรเลย จำไพ่ใครไม่ได้ ไม่รู้ว่าขาล่างเก็บไพ่อะไรหรือตีไพ่อะไรหรืออาจจะจำได้บ้างแต่พอนานไปก็ลืม ถ้าตั้งสมาธิ สนใจไพ่ที่ขาล่างตีแล้วเพิ่มความจำให้แม่นยำระลึกนึกถึงไพ่ที่ขาล่างเก็บอยู่เสมอก็จะเสี่ยงตีโง่น้อยที่สุด
โง่แบบหลงผิด เห็นว่าขาบนหรือขาตรงข้ามเก็บไพ่ตัวนี้ไป คิดว่าขาบนคอยโง่ไพ่ตัวนี้แน่นอนแต่ผิดถนัดกลายเป็นขาล่างคอยอยู่ สถานการณ์นี้ควรดูให้ดีเพราะเห็นไพ่เพียงแค่ตัวเดียวแต่ไม่เห็นอีกสองตัว อย่าคิดเอง เออเองว่าใช่แน่ จึงตัดสินใจตีไปทำให้โง่ได้
โง่แบบถูกบังคับ รู้ว่าขาล่างเก็บไพ่อะไรขึ้นไปแต่ก็จำเป็นต้องตีไปโง่ ไพ่อาจจะบีบบังคับ มีแต่ตัวโง่ มีแต่ตัวตีปี้ ตีเต็ม ทำให้ไม่มีตัวตี และไม่อยากเสียค่าปี้ค่าเต็มเลยลองตีดูว่าโง่หรือไม่ ตีโง่สเปโตก็ถูกบังคับโง่เหมือนกัน โง่แบบนี้ไม่มีใครว่าแต่อย่าไปตีโง่มืดก็แล้วกัน
โง่แบบถูกหลอก โง่เพราะเชื่อในไพ่ที่ตีมากเกินไป ชอบตีปี้ตีตามไพ่ขาล่าง หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการหลอกล่อเอาโง่ไพ่ตัวใกล้เคียงที่ขาล่างตี พอตีตามไปก็ไม่ทันแล้ว รู้ว่าโง่ก็สายเสียแล้ว เกิดฉลาดขึ้นมาทันที
โง่แบบชอบเสี่ยง เสี่ยงตีไพ่ใหม่หรือไพ่หน้าหายเพื่อรอดัมมี่หรือรอโง่ วัดดวงดูว่าดวงดีหรือไม่ จะรอดโง่หรือไม่ถ้าดวงไม่ดีก็โง่ ดวงดีก็มีลุ้น มีความหวังน็อกขึ้นมา ถ้าอยากน็อกก็ต้องเสี่ยง
โง่แบบชอบหาเรื่อง
ไพ่ยังไม่คอยโง่หรือหาดัมมี่ มีไพ่เยอะเลยเลือกตัวตีไม่ถูก
แต่ชอบหาเรื่องตีตัวใหม่ ๆที่ไม่เข้าพวก ทั้งที่มีตัวชัวร์ตีแต่ไม่ตีจึงพลาดตีโง่อย่างไม่น่าเชื่อ สเปโตก็เหมือนกันอย่าไปยุ่ง เก็บไพ่แล้วตีโง่สเปโต ถ้าโง่มืดยิ่งหนักเลย อย่าหาเรื่อง
โง่แบบเดาสุ่ม ไพ่ไม่รู้จะตีตัวไหนดี มีไพ่ให้เลือกตีสองสามใบ หน้าหายทั้งเรียงและตอง ขาล่างก็ไม่ได้เก็บให้เห็น เก็งไพ่หน้าแคบแล้วก็ยัง คิดไม่ออกคงต้องเดาสุ่มตีไปเสี่ยง เหตุการณ์คล้ายกันกับโง่แบบชอบเสี่ยงแต่ต่างกันตรงที่ไพ่ยังไม่มีลุ้นน็อกมีแต่ไพ่ใหม่และไม่มีตัวปลอดภัยก็เลยต้องโง่ ซวยจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการตีโง่แบบไหน คนตีโง่จะสูญเสียความมั่นใจตัวเอง ถ้าตีโง่บ่อย ๆ จะเกิดความท้อแท้ คิดว่าตัวเองเล่นไม่เก่ง สู้เขาไม่ได้ ทำไมเขาเล่นกันดี ไม่มีโง่กันเลย ขอให้ใจเย็น ๆแล้วลองหาสาเหตุที่เราตีโง่ มันเหมือนกับการโง่แบบข้างบนหรือไม่และดูสาเหตุที่เขาไม่ตีโง่ ที่เขาไม่โง่อาจจะเป็นเพราะว่าไพ่เขาไม่มีตัวโง่หรือว่ามีตัวโง่แต่ดวงเขาดี หยิบไม่ถูกตัวโง่ก็ได้ หรือว่าเขามีฝีมือการเก็งไพ่ตัวโง่ได้แม่นยำจริงหรือไพ่ขาล่างยังไม่คอยโง่ ตียังไงก็ไม่โง่ ถ้ามองในแง่ดี คิดว่าไม่มีใครโง่กว่ากัน อยู่ที่จังหวะใครคอยโง่เร็วกว่าใครเท่านั้น
แน่นอนว่าการเล่นดัมมี่ทุกคนย่อมเล่นพลาดกันได้ ตีโง่ได้เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นไพ่ที่มองไม่เห็นยากต่อการเก็งหรือการเดา ยิ่งตีโง่สเปโตด้วยแล้วก็พอจะเข้าใจได้เพราะไม่มีใครอยากอมให้เสียสองเท่ายกเว้นการตีโง่มืดที่เสียมากกว่า การตีโง่จึงไม่ใช่เรื่องผิด
เราสามารถฝึกฝนได้ด้วยสมาธิ สติปัญญา อย่าดูถูกฝีมือตัวเอง อย่าโทษดวง ขอให้มีกำลังใจและเมื่อเราเล่นได้ถูกต้องมากขึ้น มีความจำดีขึ้น เก็งไพ่แม่นยำมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเสี่ยงก็ต้องหาทางหลีกเลี่ยงและระมัดระวังมากขึ้น เมื่อการตีโง่ลดน้อยลง ความมั่นใจก็จะเพิ่มขึ้นตามมา แต่อย่าหลงตัวเองคิดว่ามีฝีมือระดับเซียน เก่งกว่าใคร คนอื่นโง่กว่าเราหมด คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่มีทางตีโง่อีกแน่ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้
ดัมมี่ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ฝีมือพอ ๆ กัน สิ่งสำคัญเมื่อตีโง่แล้วเราควรยอมรับความผิดพลาดนั้น ต้องคิดว่าโง่มาก่อนฉลาด ยอมรับว่าเราไม่มีทางอ่านไพ่ได้ถูกต้องทั้งหมดตลอดเกม อย่าหยุดเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จำไว้เป็นบทเรียน พยายามพัฒนาทักษะดัมมี่อยู่ตลอดเวลาเพราะเกมดัมมี่มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายไม่มีวันจบสิ้น