เทคนิคการคำนวณไพ่
ทักษะการประเมินสถานการณ์ไพ่ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการรู้จำนวนไพ่ของขาอื่นและไพ่คงเหลือในกองจั่ว
ผู้เล่นที่ประมาท ขาดความละเอียดรอบคอบเรื่องนี้ทำให้ไพ่เสียหาย พลาดโอกาสที่จะชนะแต้มได้
ตัวอย่างเช่นผู้เล่นลืมถามไพ่ขาล่างว่าเหลือกี่ใบก็เลยเผลอตีโง่ ผู้เล่นไม่ตรวจสอบไพ่คงเหลือในกองจั่วให้แน่นอนเลยลืมลงไพ่แข่งแต้ม หรือแม้แต่การจั่วหาดัมมี่ก็เช่นเดียวกัน
ผู้เล่นต้องรู้จำนวนไพ่คงเหลือว่าจะมีโอกาสจั่วได้หรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วจะทำอย่างไร
เมื่อการเล่นดำเนินมาถึงช่วงท้ายเกม
ผู้เล่นต้องเล่นด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นและให้ประเมินสถานการณ์ได้เลยว่าจะน็อกได้หรือไม่หรือชนะแต้มได้หรือไม่ด้วยการคำนวณไพ่คงเหลือจากกองจั่ว จำนวนไพ่ขาอื่นและไพ่ใหม่บนมือซึ่งมีหลักการคิดที่ต้องตัดสินใจกันให้ดีดังนี้
1. คำนวณไพ่หาดัมมี่ คุณมีโอกาสลุ้นไพ่หาดัมมี่แต่ปัญหาคือจะจั่วเจอหรือไม่
คุณต้องเช็คดูว่ามีไพ่ดัมมี่ทั้งหมดกี่ใบ
ไพ่ในกองจั่วกี่ใบและหักเผื่อขาที่ถือดัมมี่ไม่ตันไว้ ไม่ลงอีก เหลือจริง ๆ ประมาณเท่าไรแล้วคำนวณโอกาสจั่วได้มีมากน้อยเท่าไร หนึ่งในสอง หนึ่งในสามหรือสองในสาม ถ้ามีโอกาสมากก็ลองจั่วดู ไพ่ในกองจั่วยังเหลืออยู่มากคุณจั่วไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าไพ่หรือดัมมี่มีน้อยก็ให้เกิดลดการเสียให้น้อยลง
2. คำนวณไพ่ลงแข่ง คุณมีโอกาสลงไพ่แข่งแต้มเพื่อชนะในการจั่วขาด ก่อนจะถึงจังหวะนี้ต้องไม่มีการอ่อยไพ่เพื่อเก็บรอบสุดท้ายแล้วและต้องตีชัวร์ ไพ่ใบที่ตีไปต้องไม่มีผลอะไรต่อเกม การลงแข่งถ้าแต้มสูสี ใกล้เคียงกัน คุณต้องนับไพ่ในมือคู่แข่งให้ดีแล้วตีค่าต่ำสุด สมมุติถ้าเขาถือ 5 ใบก็ต้อง หัก 25 แต้ม คุณอาจลงดัมมี่ไม่ตันเพื่อแข่งแต้มได้ถ้ารู้ว่าดัมมี่ต่อไพ่ใบนี้อยู่กับใครหรือตีตัวใหญ่ออกลดแต้มถ้าจำเป็น
3.
คำนวณไพ่ปี้ขาล่าง คุณต้องคำนวณไพ่ขาล่างว่าเหลือกี่ใบและเก็บไพ่อะไรขึ้นไป
ถ้าตีปี้ไปแล้วเขาจะสามารถเก็บน็อกได้หรือไม่ หลักคือถ้าไพ่ขาล่างถือ 5 ใบ
การตีปี้ตัวล่างสุดอาจทำให้น็อกได้ถ้าเขามีไพ่ 1 ชุดกับไพ่ใบที่เก็บตัวปี้นั้น คุณจึงควรหลีกเลี่ยง ถ้าเหลือ 4 ใบ เขามี 1 ชุดถ้าตีปี้ไปไพ่เขาขาดตัวคว่ำ ถ้าตีปี้ตัวบนถัดขึ้นไปจะทำให้เขาน็อกได้ ถ้าเขาเหลือ 3 ใบ ตีปี้ตัวล่างสุดเขาต้องมีดัมมี่ 2 ใบจึงจะน็อกได้ การตีปี้รอบสุดท้ายควรจะตีปี้ให้ไกลสุดเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บน็อก
4. คำนวณไพ่เก็บในกอง คุณต้องเก็บไพ่ในกองเพื่อสร้างโอกาสคอยโง่ให้เร็วที่สุดหลักง่าย ๆ คือ ถ้าคุณเล่นมืดและขาบนตีตรงคุณเกิดแล้วไพ่จะเหลือ 4 ใบ ถ้าเก็บจากไพ่ขาตรงข้ามจะเหลือ 5 ใบ และถ้าเก็บจากขาล่างคุณจะถือ 6 ใบซึ่งเป็นการถือไพ่ที่มีโอกาสน็อกได้เร็วที่สุด คุณต้องคิดให้ละเอียดก่อนเก็บทุกครั้ง อย่าเห็นแก่แต้มมากจึงเก็บแต่ถือไพ่ 5 ใบทำให้น็อกยากนอกจากคุณจะถือไพ่ 1ชุดกับอีก 1 คู่ไว้รอข้าม การเก็บแล้วถือไพ่ 3 ใบ หรือ 6 ใบ มีโอกาสน็อกดีกว่า
5. คำนวณไพ่สเปโต การหงายหัวสเปโต Q โพดำ และคุณไม่มีตัวกันสเปโตเลยมีความเป็นไปได้น้อยมากว่าอีก 3 ขาจะถือตัวกันสเปโตไว้คนละใบ หากตัวกัน Q ขาว 2 ใบอยู่ที่ใครก็จะได้หัวใหญ่ ถ้าคุณมีไพ่ตัวกันหัวสเปโตต้องจั่วหา ถ้าคุณเล่นแบบเหนือชั้นอมสเปโต Q โพดำและ Q ขาว ถือคู่ไว้ Q ขาวอีก 2 ตัวที่ถือกันไว้คนละใบจะทำอะไรมันได้จึงทำให้ขาที่มีตัวกันเล่นได้ยากขึ้น คุณอาจจะได้ตัวกันนั้นหากเขาต้องการคอยโง่แต่คุณก็ต้องยอมรับความเสี่ยงในการเสียค่าอมด้วยหากมีผู้น็อก
6. คำนวณไพ่ส่งหอก ขาบนส่งไพ่หอกมาให้คุณจำได้ว่าขาล่างเก็บไพ่ใกล้เคียงนี้ขึ้นไป ถามขาล่างว่าเหลือกี่ใบ อย่าประมาทในสถานการณ์ไพ่ที่คุณกินแต้มอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นต้องตีเสี่ยงไพ่หอกเพื่อคอยโง่ อันตรายมาก อย่าโลภ การถือไพ่ชุดมีความสำคัญมากในยามฉุกเฉินคุณต้องไม่ลงไพ่ทั้งหมดแล้วมาบีบไพ่ในมือตีตัวใหม่ ให้เก็บไพ่ชุดไว้ จำไว้ว่าถ้าไม่ลงให้ฉีกตีไพ่ชุดทิ้ง ตีให้ชัวร์ไว้ก่อน
7. คำนวณไพ่ตีชนะแต้ม คุณจั่วแล้วไพ่ในกองจั่วเหลือ 1 ใบคุณต้องการชนะแต้มแต่ไพ่คุณมีตัวกันหัว หรือสเปโต มีไพ่ใหม่เสี่ยงคิดว่าตีโง่แน่ และมีตัวตีเต็มชุด คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จึงต้องตีตัวใดตัวหนึ่ง คุณคิดแต้มให้ละเอียดถ้าปี้หัวหรือสเปโตอาจแพ้แต้มได้ ถ้าคิดแต้มแล้วชนะให้ตีเต็มชุดคุณจะไม่ได้ไม่เสียเพราะชนะแต้มหักลบกับเสียค่าตีเต็ม เกมนี้ถือว่าคุณเล่นแข็งได้รับคำชมไป
8. คำนวณไพ่ยอมเสีย ไพ่คุณไม่สามารถแข่งแต้มชนะได้ คุณต้องจั่วอย่าให้ไพ่ถึงขาที่มีลุ้นน็อก ถือดัมมี่หรือไพ่ชุดที่ไม่ตันไว้แล้วลงไพ่ตันแข่งแค่เสียกลางหรือเสียน้อยได้ การลงไพ่ไม่ตันทั้ง ๆ ที่สู้ขาอื่นไม่ได้จะทำให้เสียเพิ่มมากขึ้นคุณยอมเสียมากดีกว่าเสียค่าน็อก จำไว้ว่าถ้าไม่กินก็เสียเยอะไป อย่าหาเรื่องเสียค่าอื่นโดยไม่จำเป็น
9. คำนวณไพ่จั่วขาด ไพ่ใบสุดท้ายเป็นไพ่ที่คุณต้องตัดสินใจให้ดี คิดให้ละเอียดรอบคอบ หลักการเล่นคือจั่วขาดไว้ก่อนอย่าให้ไพ่ถึงขาล่าง ตามสถานการณ์ไพ่คือมีสเปโตอยู่ข้างล่าง และคุณไม่มีไพ่ที่เกี่ยวกับหัวเลยอาจจะเป็นไปได้ว่าขาล่างนี้ถือไพ่คู่และเกิดหัวได้ คุณคำนวณแต้มแล้วถ้าสู้ไม่ได้ ให้จั่ว ถ้าคุณเกิดไพ่และอาจเสียสเปโตซ้ำเข้าไปอีกทำให้เสียหลายต่อ ถ้าคุณจั่วก็จบเลยไพ่ไปไม่ถึงใคร
10. คำนวณไพ่อมสเปโต ไพ่ใบสุดท้ายที่คุณจั่วอาจเป็นสเปโตหรืออมสเปโตไว้นานแล้ว คุณเก็งว่าไพ่ขาล่างรอโง่สเปโตแน่นอน การตีโง่สเปโตกับอมไว้อย่างไหนจะเสียมากกว่ากัน คำตอบคือเสียเท่ากันถ้าเป็นการตีโง่สว่าง แต่ถ้าตีโง่มืดคุณจะเสียมากกว่าทั้งค่าโง่ ค่าน็อกและค่าเสียมาก จำไว้ว่ายอมอมดีกว่าตีโง่มืดแต่พอถึงเวลาจริง ๆ ไม่มีใครอยากอมอยากจะลองเสี่ยงวัดดวงดูว่าจะโง่จริงหรือไม่
คิดเก่ง คิดน็อก คิดกินแต้ม
เทคนิคการคอยโง่
เป้าหมายสำคัญที่สุดของดัมมี่คือการน็อกแต่ก่อนที่จะไปถึงการน็อกนั้นจะต้องทำให้ไพ่คอยโง่ให้ได้ก่อนซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไพ่คุณไม่สวยถึงขนาดแจกมาคอยโง่เลย
การคอยโง่เป็นทักษะหนึ่งของการเล่นดัมมี่ที่สำคัญมาก ผู้เล่นต้องใช้ทักษะอื่นอีกมากร่วมด้วยเช่นทักษะการลงทุน
ทักษะการสร้างดัมมี่ ทักษะการเก็งไพ่เข้าชุดเพื่อคอยโง่และบางครั้งก็มีอุปสรรคขัดขวางทำให้ไม่สามารถคอยโง่ไพ่ที่ต้องการได้ทำให้เกิดความเครียด
ผู้เล่นจึงต้องอดทนคอยเป็นอย่างมากกว่าจะได้โง่
การคอยโง่เป็นการคาดหวังว่าจะได้ไพ่ใบที่ต้องการเพื่อน็อก เป็นการคอยอย่างมีจุดหมาย แต่จะมีโอกาสได้ไพ่นั้นมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับดวงของผู้เล่นที่จั่วได้หรือฝีมือการตีไพ่ของขาบนถ้าเขาเล่นแข็งก็ไม่ได้โง่ อย่างไรก็ตามการเล่นคอยโง่ถูกต้องแล้วแม้ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสน้อยที่จะได้ แต่ผู้เล่นยังต้องมีความหวังต่อไปเพื่อน็อกและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า แล้วจะทำอย่างไรให้คอยโง่ได้เร็วที่สุด ลองดูเทคนิคนี้
1. ดูไพ่ให้ชัดเจนว่าคอยโง่หรือยัง
บางทีการถือไพ่หลายหน้าเรียงติดกันอาจมีไพ่เข้าหลายชุดทั้งเรียงและตอง ใจเย็น ๆ ขอเวลาเช็คไพ่ให้นานหน่อย ลองหมุนหน้าไพ่ดู แยกชุดออก ไพ่ตัวไหนเป็นดัมมี่ ติดไพ่ไม่เข้าพวกกี่ตัว อาจจะมีหน้าไพ่ที่คอยโง่แล้ว
การดูไพ่ไม่ละเอียดทำให้พลาดโอกาสการคอยโง่ไปอย่างน่าเสียดาย
คิดไว้ในใจระบุให้ชัดเจนว่ารอไพ่ตัวนี้แล้วจะเสี่ยงตีตัวนี้ ปลอดภัยหรือไม่ ถ้ามีไพ่ตัวปลอดภัยก็สามารถตีออกไปได้เลย อาจจะมีการฉีกเรียงหัวหรือท้ายของไพ่ชุดอื่นได้แต่ก็ยังคงคอยโง่อยู่
2. คอยไพ่หน้ากว้าง
ในที่นี้คือไพ่คู่หน้าตอง มีหน้าไพ่ให้คอยได้ถึง 2 ตัว
ถ้าคอยไพ่หน้าเรียงหัวหรือท้ายจะมายากและมีโอกาสมากที่ไพ่หน้านั้นเข้าชุดตองขาอื่นทำให้หน้าไพ่ที่รอขาดหายไป
การรอไพ่ 3 หน้าเป็นการรอที่ดีที่สุดเพราะเพิ่มโอกาสหน้าไพ่มาถึง 4 ตัว
ถ้ามีจังหวะให้รอไพ่ลักษณะนี้อาจจะต้องมีการลงทุนตีตัวกันหรือตีปี้กันบ้างก็ไม่เป็นไร
ขอให้ได้มีลุ้นน็อก
3. คอยไพ่หน้าแคบ ไพ่คุณไม่มีโอกาสรอตัวอื่นจึงจำเป็นต้องรอไพ่ตัวเดียวแคบ ๆ ก็ยังถือว่าได้รอ ส่วนใหญ่จะเป็นการคอยไพ่หน้าเรียงเพราะหน้าตองออกหมดแล้ว หรือการคอยไพ่ตัวเล็ก เช่นไพ่เลข 3 4 เมื่อเห็นว่าไพ่ชุดสเปโต 2 ดอกจิกออกไปแล้ว การคอยไพ่หน้าแคบมีข้อดีคือขาบนอาจประมาทได้ คิดว่าไม่น่าโง่จึงเสี่ยงตีลงมา ไพ่หน้าแคบไม่ควรลงทุนเพราะไม่คุ้ม ขาบนถือไพ่เยอะ ไพ่กองจั่วเหลือน้อย โอกาสได้โง่หรือจั่วน็อกเองมีน้อยมาก สถานการณ์อย่างนี้ไม่ต้องรอโง่ ฉีกออกดีกว่า
4. คอยไพ่ขาบนเก็บขึ้นไป เป็นการคอยโง่ไพ่หน้าแคบอีกทางหนึ่งแต่ทางนี้เพิ่มความหวังเห็นชัดอยู่ว่าขาบนเก็บตัวโง่ขึ้นไป
มีโอกาสจะได้โง่มากถ้าไพ่นั้นไม่ติดคู่เสียก่อน คุณอดทนรอดักโง่ไว้อย่าเปลี่ยนหน้าไพ่
ไม่ต้องห่วงเขายังไม่น็อกหรอก ติดไพ่ตัวโง่คุณอยู่
ถ้ามีตัวล่ออีกหน้าหนึ่งให้ตีไพ่ตัวโง่ตามมาถือว่าเป็นการหลอกที่สุดยอดมาก
5. คอยไพ่ตัวโง่ให้ถูก
ถ้าคุณรู้ว่าตัวโง่อยู่กับขาล่างหรือขาตรงข้ามโอกาสจะได้ตัวโง่นั้นมาคงยากควรจะเปลี่ยนหน้าคอย
หันมาคอยไพ่ที่จั่วมาเข้าคู่ใหม่จะมีโอกาสง่ายกว่าไพ่คู่ที่มีตัวหนึ่งตัวใดเป็นดัมมี่สามารถแยกคู่ออกได้ให้รักษาดัมมี่ไว้
ไพ่ตัวโง่ที่เป็นตัวกันยิ่งยากที่จะได้โง่ใครจะตีให้นอกเสียจากสเปโตออกไปแล้วถ้าได้โง่คงจะเป็นดวงสุด
ๆของคุณ
ยังไงก็ต้องคอยโง่