บทที่
9
การเดินทัพ
1. การตั้งทัพมักชอบที่สูง ชังที่ต่ำ รักที่แจ้ง เกลียดที่ทึบ
มีเสบียง สมบูรณ์ ชัยภูมิมั่นคง กำลังพลปราศจากโรคภัย
นี่คือเหตุพึงชนะ
2. เดินทัพในลำน้ำอย่าสู้รบ
เดินทัพในที่สูง
ให้ยึดหุบเขาเป็นแนว
เดินทัพในที่ลุ่มจงรีบไป
เดินทัพในที่คับขัน พึงตรวจค้นซ้ำซาก
3.
ข้าศึกใกล้แต่เงียบ เพราะได้ชัยภูมิ
ข้าศึกไกลแต่ท้ารบ เพราะล่อให้ประชิด
ข้าศึกได้เปรียบแต่ไม่รบ เพราะอิดโรย
ข้าศึกตระหนกตกใจ เพราะหวาดกลัว
4.
ข้าศึกเจรจานอบน้อม เพราะมีแผนบุก
ข้าศึกเจรจาแข็งกร้าว เพราะเตรียมถอย
5.
ข้าศึกเคลื่อนย้ายกำลัง เพราะเตรียมจัดทัพเข้ารบ
ข้าศึกพักรบกระทันหัน
เพราะได้วางแผนร้าย
ข้าศึกกึ่งรุก กึ่งถอย
เพราะกำลังลวง
ข้าศึกทุบหม้อข้าว
เพราะตัดสินใจสู้จนตัวตาย
ข้าศึกสับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่ง เพราะเกิดความสับสน
ข้าศึกส่งเสียงดัง เดือดดาล เพราะกำลังเบื่อหน่ายสงคราม
6. ไพร่พลมากใช่จะดี สำคัญอย่าสุ่มเสี่ยง มีกำลังพอรบ
ประมาณกำลังข้าศึกอย่างแม่นยำ ก็ชนะได้
7. หากแม่ทัพไร้สติ รบสุ่มเสี่ยง
แม้ทหารจะมีมาก ก็ต้องถูกตีพ่ายไปอย่างแน่นอน
8. แม่ทัพสมานฉันท์กับไพร่พล ฝึกไพร่พลมีวินัย
ฟังบัญชาเป็นวิสัย ไพร่พลจักจงรัก
ซุนวูสอนเล่นดัมมี่ว่า
บทที่ 9
การเดินเกม
ในบทนี้ ซุนวูอธิบายเกี่ยวกับชัยภูมิ การตั้งทัพและการเดินทัพ
ในการเล่นดัมมี่ การตั้งทัพคือการจัดไพ่ในมือ ส่วนการเดินทัพหมายถึงการจั่วไพ่
การตีไพ่ ซุนวูแสดงให้เห็นถึงการเดินเกมการเล่นตามหน้าไพ่ โดยพิจารณาถึงหน้าไพ่ของตนเองและสถานการณ์ไพ่ในกองทิ้งให้สามารถทำแต้มได้
ซุนวูยังให้ความสำคัญแก่การสังเกตอาการ ท่าทาง คำพูดของขาอื่นว่ามีความหมายอย่างไร
การตีความพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ สุดท้ายซุนวูเสนอแนะหลักการประเมินกำลังไพ่และการจัดการไพ่เพื่อชัยชนะ
ซุนวูกล่าวว่าการจัดหน้าไพ่ในมือเป็นสิ่งสำคัญในการเดินเกม จะต้องเห็นประโยชน์ของไพ่แต้มสูงก่อนแต้มต่ำและจับคู่หน้าไพ่ให้เข้ากันเพื่อคอยหลายหน้า ไม่ควรเล่นคอยหน้าเดียว ไพ่หน้าเรียงมีดัมมี่หลายตัว หัวท้าย หน้าไพ่มี 3 หน้าโอกาสได้ชุดทั้งเรียงและตอง ให้ดูจังหวะโอกาสการจั่วเข้าว่ามีมากน้อยแค่ไหนนี่คือเหตุที่หน้าไพ่กินแต้ม หน้าไพ่แต้มสูงให้ถือไว้ ไล่ลงมาหาไพ่หน้ารองที่ใกล้เคียง ถ้าไพ่หน้านี้ยังไม่มีคู่ให้รีบจั่ว หากหน้าไพ่มี 3 หน้า ให้จั่วอย่าเพิ่งแยกไปเกิด ถ้ามีไพ่หน้าต่ำให้ตีไปก่อน เกาะกลุ่มไพ่สูงไปต่ำไว้
ซุนวูให้ความสำคัญในการสังเกตอาการ ท่าทาง การเล่น การพูดจาของขาอื่นเป็นอย่างมาก เขาบอกว่าการตีความพฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เล่นอย่างมาก คุณหัดฝึกสังเกตและตีความตามนี้แล้วดูว่าใช่หรือไม่ เป็นการหลอกลวงหรือไม่ ความหมายที่แท้จริงคืออะไร ต้องใช้สติปัญญาวิเคราะห์สถานการณ์
ขาล่างเงียบเพราะคอยโง่
ขาบนเก็บเพราะล่อให้เราตีตาม
สลับไพ่ไปมาเพราะเตรียมเกิด
คิดนานเพราะไพ่ในกองมีโอกาสน็อก
เกิดได้แต่ยังไม่อยาก เพราะรอจังหวะ
ทำตกใจเพราะกลัวลบมืด
ตีปี้ไกลเพราะไม่ต้องการเกิด
เกิดไพ่บ้าง เพราะลวงว่าไม่คอย แต่ความจริงแล้วคอย
ตีปลอดภัยเพราะไม่แข่งแต้ม
ตีไพ่ดุเพราะต้องการน็อก
พูดขอเกิด เพราะอยากเกิด
พูดขู่ เพราะไพ่ไม่มีอะไร
บ่นไพ่ เพราะเบื่อ อยากน็อก
ซุนวูเสนอปัญหาการเล่นว่าการถือไพ่มากเกินไปใช่ว่าจะดี กำลังไพ่มีมากแต่ยังไม่มีประโยชน์ถ้าคุณยังไม่ลงกินแต้มหรือจัดเข้าชุด สิ่งสำคัญอยู่ที่คุณมีความสามารถในการประเมินกำลังไพ่ทั้งของคุณและของคู่แข่งได้อย่างถูกต้องหรือไม่ การที่คุณจะเก็บไพ่ตัวสำคัญ อย่าตีเสี่ยง แม้ว่าจะมีไพ่ในมือมากถ้าคุณประมาท ตีไพ่โดยไม่คิดให้รอบคอบก็จะต้องถูกน็อกอย่างแน่นอน ดังนั้นไพ่ในมือไม่ต้องมีมากโดยเฉพาะตัวที่ไม่มีประโยชน์ มีไพ่น้อยแต่สามารถหาดัมมี่หรือคอยโง่ได้และอ่านไพ่ขาอื่นอย่างแม่นยำก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้
สุดท้ายซุนวูเสนอหลักการสมานฉันท์จัดการไพ่ให้ไพ่ตัวที่ต้องการออกมาโดยใช้หลายยุทธวิธีด้วยกัน
เช่น การเกิดไพ่เรียงก่อน ไพ่ตองให้เกิดทีหลังกรณีที่ต้องการเกิดไพ่เลขเดียวกัน การเกิดไพ่ตัวกันสเปโตออกไปเพื่อต้องการเอาไพ่สเปโตหน้าเดียวกัน
การตีตัวกันสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการเอาไพ่สเปโตอีกตัวหนึ่ง การถือไพ่เลขเดียวกันหรือใกล้เคียงกันกับไพ่ตัวที่ต้องการคุมไว้เพื่อให้เขาตีไพ่ตัวที่ต้องการนั้นมา
การปูพรมไม่ให้ขาอื่นเกิดและให้เขาตีไพ่ตัวที่ต้องการมา ตรงนี้คือหลักการกว้าง ๆ ในการจัดการและบังคับไพ่