คำว่า 36 กลยุทธ์ ปรากฏเป็นครั้งแรกในประวัติหวางจิ้งเจ๋อในหนังสือ ประวัติแคว้นฉีใต้ เมื่อราว 479 ถึง 502 ปี ก่อนคริสตศักราช ฮ่องเต้หมิงระแวงขุนนางคนไหนจะแย่งชิงบัลลังก์ก็สั่งฆ่า ขุนพลหวางจิ้งเจ๋อก็ตกเป็นเป้าหมายครั้งนี้ด้วยจึงคิดก่อกบฏ รัชทายาทฮ่องเต้หมิงตกใจกลัวจึงหนี หวางจิ้งเจ๋อรู้ข่าวกล่าวว่า " ก็เหมือนกับ 36 กลยุทธ์ของถานเต้าจี้ที่ว่า หนีคือยอดกลยุทธ์ "
คำว่า 36 ในที่นี้สำหรับชาวจีนมีความหมายว่ามากมาย และคำที่ว่า 36 กลยุทธ์ของถานเต้าจี้ หนี คือยอดกลยุทธ์จึงหมายความว่า ถานเต้าจี้อาจจะใช้กลยุทธ์ได้ร้อยแปดแต่เขาก็เห็นว่า หนีเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดเท่านั้นและไม่มีหลักฐานว่าถานเต้าจี้เป็นผู้คิดกลยุทธ์ทั้ง 36 นี้หรือไม่
ดังนั้นคำว่า 36 กลยุทธ์ จึงมีผู้ใช้กันมาแล้ว อาจจะอยู่ในสมัยยุคชุนชิว ราว 700 ถึง 400 ปีก่อนคริสตศักราช และเชื่อกันว่ากลยุทธ์ทั้ง 36 นี้อาจไม่ได้เกิดจากความคิดของใครคนเดียวแต่อาจจะเป็นการเก็บเล็กผสมน้อยจากหลายยุคสมัย หลายเหตุการณ์และสืบทอดกันต่อมาจนมีผู้แต่งเป็น 36 กลยุทธ์ในภายหลังก็ได้
สันนิษฐานกันว่าช่วงเวลาที่ 36 กลยุทธ์เกิดเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับซุนวูแต่งตำราพิชัยสงคราม หวังจิ้งเจ๋อและถานเต้าจี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่า 36 กลยุทธ์อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากซุนวู หรือไม่ก็ซุนวูจะได้แรงบันดาลใจมาจาก 36 กลยุทธ์นี้มาแต่งตำราพิชัยสงคราม
โดยเหตุนี้นักประวัติศาสตร์จีนจึงสรุปได้ว่า 36 กลยุทธ์ไม่น่าจะมีใครแต่งขึ้นมาเพียงคนเดียว แต่น่าจะเป็นกลศึกที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ก่อนสมัยชุนชิวและอาจจะมีผู้คิดมาเพิ่มเติมภายหลังซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีมาก่อนตำราพิชัยสงครามของซุนวูเสียอีกและถูกนำมาใช้สืบทอดกันถึงปัจจุบัน ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า 36 กลยุทธ์ซุนวูจึงคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ต่อมาภายหลังคำว่า 36 กลยุทธ์ได้เป็นที่ยอมรับและนำมาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในวงการเมือง การทหาร ธุรกิจการค้าต่างก็ใช้คำนี้เพื่อวางแผนการดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ
36 กลยุทธ์ดัมมี่นี้ไม่ได้นำมาจากต้นฉบับจากตำราพิชัยสงครามซุนวูทั้งหมดแต่เป็นการรวบรวมกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำสงครามมาจากซุนวูและนักยุทธศาสตร์คนอื่นที่เห็นว่าสามารถประยุกต์ใช้เป็นกลยุทธ์ในการเล่นดัมมี่ได้ แบ่งออกเป็น 6 หมวด หมวดละ 6 กลยุทธ์ รวมเป็น 36 กลยุทธ์ ไม่ว่าคุณจะเล่นดัมมี่อย่างไรย่อมหนีไม่พ้นจาก 36 กลยุทธ์นี้
ในเมื่อดัมมี่คือสงคราม คุณคือนักรบ นักรบจะชี่ยวชาญศึกได้จึงต้องเชี่ยวชาญกลยุทธ์ด้วยดังนั้นถ้าคุณต้องการเป็นเซียนดัมมี่ ขอให้คุณศึกษาสุดยอด 36 กลยุทธ์ดัมมี่นี้ คุณจะได้เรียนรู้ศิลปะการวางแผน ลีลาชั้นเชิง การอ่านเกมแก้ไขสถานการณ์ จิตวิทยาการเล่นที่ลึกซึ้ง เล่นอย่างไรให้น็อก ให้ได้กินแต้ม คุณต้องฝึกหาประสบการณ์ พัฒนาฝีมือ พลิกฟ้า พลิกแผ่นดินเพื่อความสำเร็จตามเป้าหมาย
ไม่เข้าถ้ำเสือไหนเลยจะได้ลูกเสือ ตีเสี่ยง
พิมเสนแลกเกลือ ตีลงทุน
อ่อยเหยื่อ ตีไพ่ชุดแล้วเก็บคืน
ตีเหล็กเมื่อร้อน อ่อยเก็บไปเรื่อย ๆ
ชักสะพานข้ามทิ้ง อ่อยเก็บแล้วตีปลอดภัย
กลยุทธ์การโจมตี
จับโจรต้องจับหัวหน้า เก็บไพ่รองหัว
ชิงลงมือก่อน เก็บหัวหรือสเปโตทันที
ฉวยโอกาส เก็บแล้วรอโง่
หยิบฉวยติดมือ เก็บแล้วรวยแต้ม
ยืมดาบฆ่าคน เก็บไพ่ถือหลอก
จับเสือมือเปล่า เก็บไพ่ครั้งเดียวน็อก
กลยุทธ์การรอจังหวะ
เสือซุ่ม รอโง่ตัวที่ขาบนเก็บขึ้นไป
จู่โจมตี รอจังหวะเอาโง่สเปโต
หักหลัง รอโง่ไพ่หน้าแคบ
เสน่ห์สาวงาม รอตัวโง่ไพ่ในกอง
ยืมร่างคืนชีพ รอโง่ตัวกันสเปโตเมื่อสเปโตออกแล้ว
ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว น็อกแล้วไม่น็อก รอโง่
กลยุทธ์การหลอกล่อ
ย้อนรอยมังกร ตีหลอกเอาโง่ไพ่ที่เคยตี
ล่อเสือออกจากถ้ำ ตีไพ่ล่อให้ตีตามมาโง่
ขึ้นเหนือล่องใต้ ตีตัวกันหลอกเอาโง่สเปโต
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ถือไพ่หลายใบหลอกเอาโง่
ลอกคราบ ลงไพ่หลอกเอาโง่
นกต่อ ตีปี้ให้ขาบนเก็บตัวโง่ขึ้นไป
กลยุทธ์การตั้งรับ
หนามยอกเอาหนามบ่ง อมสเปโตรอตัวกัน
เปลี่ยนมือสับไพ่ อมสเปโตเอาไว้คว่ำ
ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ตีปี้ยืดให้ไพ่ถึง
ออมกำลัง กินแต้มแล้วตีปลอดภัย
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง อ่อยเกิดรอบสุดท้าย
หนี สู้ไม่ได้ไม่เสี่ยง ตีตัวปลอดภัย